แพะป่วยดูอย่างไร ข้อมูลอะไรที่ต้องเตรียมให้สัตวแพทย์

Written by Baude Christopher การตลาด

Updated: 2024-12-01

การเลี้ยงแพะนอกเหนือจากการให้หญ้าแห้งกิน การเตรียมอาหารไว้ในรางให้แบบครบทุกมื้อ การตัดแต่งขนแพะ และการตัดแต่งกีบเท้าแพะซึ่งเป็นการดูแลแพะแบบปกติทั่วไปแล้ว คุณยังต้องใส่ใจเรื่องสุขภาพของแพะ เพื่อป้องกันปัญหาสุขภาพแพะที่อาจเกิดขึ้นอีกด้วย

ในบทความนี้ เราจะพูดเกี่ยวกับสิ่งที่คุณควรรู้เพื่อการดูแลสุขภาพของแพะ การเตรียมพร้อมรับมือกับอาการแพะป่วย อุบัติเหตุ และอื่น ๆ ที่คาดไม่ถึงเกี่ยวกับสุขภาพแพะ รวมถึงเมื่อไหร่ควรพบสัตวแพทย์ การทำงานร่วมกันกับสัตวแพทย์ และการจดบันทึกการดูแลสุขภาพแพะ ทั้งหมดนี้จะทำให้คุณมีการวางแผนและการรับมือเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพแพะได้ดียิ่งขึ้น

สัญญาณที่บอกว่าแพะป่วย

แพะเป็นสัตว์ที่มีนิสัยชอบทำอะไรซ้ำ ๆ คุณสามารถเรียนรู้นิสัยเหล่านี้ของมันและสามารถใช้เพื่อระบุอาการป่วยของแพะได้ด้วยการสังเกตแพะของคุณ 2-3 ครั้งต่อวัน

แพะส่วนใหญ่ชอบอยู่รวมกันเป็นฝูง ขณะที่บางตัวจะชอบออกไปเที่ยวกับเพื่อนเพียงตัวเดียวก็มี แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่แพะตัวที่ชอบอยู่เป็นฝูงแยกตัวออกจากฝูง และแพะที่ชอบโดดเดี่ยวกลับเข้ามาฝูง อีกทั้งยังมีการต่อสู้กันอย่างหนักภายในฝูง ให้คุณรู้ไว้เลยว่าอาจมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นกับแพะของคุณแล้ว

การเปลี่ยนแปลงไปของพฤติกรรมการกินของแพะก็เป็นอีกหนึ่งการส่งสัญญาณของแพะป่วยที่ชัดเจน เช่น แพะบางตัวมีนิสัยที่กินน้อย บางตัวชอบกินเยอะ บางตัวกินนช้ากว่าตัวอื่น บางตัวต้องต่อสู้ หรืออาจหลบ ๆ ซ่อน ๆ เพื่อรอส่วนแบ่งก็มี แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่แพะหยุดกิน หยุดดื่ม คุณจะรู้ได้ทันทีว่าแพะมีอาการป่วยแล้ว

นอกจากนี้ หากแพะป่วยคุณยังสามารถสังเกตอาการอื่น ๆ ได้อีก ดังนี้:

ไม่เคี้ยวเอื้อง

แพะเป็นสัตว์เคี้ยวเอื้อง ดังนั้นการเคี้ยวเอื้องจึงเป็นส่วนหนึ่งของวิธีที่แพะจะใช้ในการย่อยอาหาร แพะที่มีสุขภาพดีจะมีการเคี้ยวเอิ้องหลังจากกินอาหารเข้าไป

เดินลำบาก

แพะที่เดินกะเผลกบ่งบอกได้ถึงการบาดเจ็บที่กีบเท้าหรือเข่าซึ่งอาจเกิดขึ้นได้ ในขณะที่อาการเดินเซจะเป็นตัวแจ้งเตือนคุณถึงปัญหาทางระบบประสาทที่อาจเกิดขึ้น

การกัดฟันหรือการกดศีรษะ

ทั้งสองอาการนี้เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าแพะกำลังเจ็บปวด ซึ่งคุณต้องทำการตรวจสุขภาพแพะเพิ่ม เพื่อหาสาเหตุ

การหายใจหอบ

ปัญหาสุขภาพบางอย่างอาจทำให้แพะหายใจเร็ว, หายใจหอบ หรือหายใจลำบาก ในขณะที่ก็ยังมีปัญหาอื่น ๆ อีก ที่จะเป็นสาเหตุทำให้แพะหายใจช้าลง อากาศที่ร้อนจัดอาจทำให้แพะที่แข็งแรงหายใจลำบากได้เช่นกัน

ไอแห้ง น้ำมูกไหล หรือน้ำตาไหล

แพะที่มีสุขภาพดีมักจะตาแห้ง และมักไม่มีอาการไอ น้ำมูกไหลให้เห็น

ท้องอืด

ปกติแพะจะมีการเคลื่อนไหวแทบจะตลอดเวลา มีความปราดเปรียว ว่องไว แต่หากแพะคุณสังเกตเห็นแพะเริ่มนอนนิ่ง ไม่เคลื่อนไหวเหมือนเคย ท้องป่อง นั่นแปลว่า แพะมีอาการท้องอืด

ทั้งนี้ อาการแพะท้องอืดสามารถทำได้เบื้องต้นโดยน้ำมันพืช 2-3 ช้อนโต๊ะให้แพะกิน เช้าและเย็น จนกว่าแพะจะมีอาการดีขึ้น

อุจจาระผิดปกติ

ปกติแพะจะมีอุจจาระแข็ง สีน้ำตาลเข้ม ลักษณะเป็นก้อน แต่หากแพะท้องเสีย อุจจาระจะเหลวเป็นน้ำ รวมถึงการขับถ่ายที่มีการเปลี่ยนแปลงความสม่ำเสมอหรือสีอาจส่งสัญญาณถึงปัญหาสุขภาพของแพะได้

เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณเริ่มพบกับสัญญาณของความผิดปกติด้านบน คุณต้องตรวจสอบเพิ่มเติมว่ามันจะมีอาการอื่นเพิ่มเติมหรือไม่ เช่น การวัดไข้ พร้อมทั้งพิจารณาปัญหาด้านพัฒนาการอื่น ๆ ร่วมด้วย

ปรึกษาสัตวแพทย์แพะ

การดูแลสุขภาพแพะ คุณต้องวางแผนการทำงานร่วมกับสัตวแพทย์ด้วย เพื่อจัดการกับปัญหาการดูแลสุขภาพแพะที่เกิดขึ้น นอกเสียจากว่าคุณจะเป็นสัตวแพทย์ แม้ว่าคุณจะมีความสามารถในบางด้านเนื่องจากมีประสบการณ์กับสุนัขหรือปศุสัตว์อื่น ๆ แต่หากบางกรณีที่เกินความสามารถของคุณ อย่าลังเลที่จะปรึกษาสัตวแพทย์ เพื่อขอความช่วยเหลือทันที

การค้นหาสัตวแพทย์ เราแนะนำว่าควรเป็นสัตวแพทย์ที่มีประสบการณ์เรื่องแพะโดยเฉพาะ และควรค้นหาสัตวแพทย์แพะเอาไว้ล่วงหน้าก่อนที่จะเกิดปัญหาขึ้น อย่ารอให้แพะป่วยแล้วจึงค้นหาสัตวแพทย์ เพราะคุณอาจไม่สามารถค้นหาสัตวแพทย์ที่จะดูแลแพะได้ทันในสถานการณ์ที่ฉุกเฉินอย่างนั้นได้ จนอาจนำมาซึ่งผลลัพธ์ที่เลวร้ายได้

หากต้องการค้นหาสัตวแพทย์ใกล้บ้านคุณ โปรดไปที่ภาพรวมสัตวแพทย์แพะของ Furry Farm

โรคในแพะ

แม้ว่าแพะมักจะชอบอยู่รวมกันเป็นฝูง แต่การเลี้ยงแพะจำนวนมากให้อยู่รวมกันในพื้นที่จำกัดไม่ใช่ความคิดที่ดี เพราะแพะที่เกิดอาการเครียดและหากต้องเผชิญกับสภาพภูมิอากาศที่ร้อนหรือฝนตกหนัก อาจทำให้แพะป่วยและเกิดโรคในแพะได้

สาเหตุของโรคในแพะเกิดจากเชื้อโรค 2 ตัวด้วยกัน ได้แก่ เชื้อไวรัสและเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งโรคที่แพะมักเผชิญได้แก่ โรคข้ออักเสบและสมองอักเสบ (CAEV), โรคฝีติดเชื้อ, โรควัณโรคเทียม, โรคกลืนสิ่งแปลกปลอม (โรคนี้อาจทำให้แพะท้องอืดและลำไส้อุดตันได้), โรคโจนส์, โรคลอสเทอริโอซิส, โรคปากเปื่อย และโรคกีบเท้าเน่า เป็นต้น

โรคบางโรคแพะก็ไม่แสดงอาการแต่ยังถือว่าเป็นพาหะอยู่ ดังนั้น การหมั่นตรวจสอบสุขภาพแพะเป็นประจำเป็นสิ่งที่เราแนะนำ

ทั้งนี้ หากพบแพะที่มีอาการป่วย คุณควรแยกคอกทันที รวมถึงทำการตรวจสอบแพะตัวอื่น ๆ เพื่อหาเชื้อโรคและรักษาอย่างถูกต้องต่อไป ซึ่งกรณีเช่นนี้ คุณอาจต้องขอความช่วยเหลือจากสัตวแพทย์ และอย่าลืมแบ่งปันข้อมูลบันทึกสุขภาพแพะให้สัตวแพทย์ทราบ เพื่อการวินิจฉัยที่ถูกต้องด้วย

อีกวิธีหนึ่งที่ได้ผลเพื่อให้แน่ใจว่าฝูงแพะของคุณมีสุขภาพที่ดีคือการฉีดวัคซีนให้กับพวกมัน

สัญญาณของโรคและความเจ็บป่วยในลูกแพะ

แพะโตเต็มวัยและลูกแพะจะเผชิญกับความท้าทายด้านสุขภาพที่แตกต่างกัน แพะที่โตเต็มวัยจะไวต่อสภาวะเรื้อรังมากกว่า และลูกแพะก็เสี่ยงต่อโรคเฉียบพลัน เนื่องจากระบบภูมิคุ้มกันที่ยังไม่เจริญเต็มที่

ทารกแรกเกิดมักมีภาวะอุณหภูมิร่างกายต่ำกว่าปกติ ท้องเสีย และติดเชื้อ เช่น โรคฟลอปปี้คิดส์ และโรคกล้ามเนื้อขาว การดูแลให้ได้รับสารอาหารที่เหมาะสมและการบริโภคน้ำนมเหลืองทันที ถือเป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันปัญหาเหล่านี้ในเด็ก สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพลูกแพะ โปรดดูบทความปัญหาสุขภาพลูกแพะของเรา

บทสรุป

การเลี้ยงแพะให้มีสุขภาพดี คุณจำเป็นที่จะต้องหมั่นสังเกตและตรวจสอบสุขภาพแพะอยู่เสมอ การสังเกตอาการแพะป่วย สามารถดูได้จากการที่แพะไม่เคี้ยวเอื้องจากอาหารที่กินเข้าไป, การเดินกะเผลก, การกัดฟัน, การหายใจเปลี่ยนไป หายใจหอบ, ท้องป่อง (ท้องอืด), ไอแห้ง, น้ำมูกไหล และน้ำตาไหล เป็นต้น

การค้นหาสัตวแพทย์ เราแนะนำว่าควรเริ่มหาตั้งแต่เนิ่น ๆ อย่ารอให้แพะเกิดปัญหาด้านสุขภาพก่อน เพราะมันอาจเสี่ยงต่อผลลัพธ์ที่เลวร้ายและไม่คาดคิดได้ หลังจากได้สัตวแพทย์ประจำฟาร์มแล้ว คุณสามารถให้สัตวแพทย์เริ่มจากการตรวจสอบเลือดของแพะในฟาร์มก่อนได้ พร้อมการจดบันทึกสุขภาพแพะไว้

ทั้งนี้ หากแพะมีอาการป่วย ก่อนที่คุณจะพาแพะเข้าพบสัตวแพทย์ คุณยังมีสิ่งที่ต้องเตรียมสัตวแพทย์ เช่น บันทึกการตรวจวัดอุณหภูมิแพะ, ผลการเช็คสีเปลือกตาและสีเหงือก, การหายใจ, ลักษณะของอุจจาระ และตรวจดูว่าท้องแพะป่องหรือไม่ เป็นต้น

การดูแลใส่ใจในสุขภาพแพะและรักษาแพะป่วยตั้งแต่เนิ่น ๆ จะทำให้แพะมีโอกาสหายเป็นปกติได้ รวมถึงจะทำให้คุณสิ้นเปลืองงบประมาณในการดูแลสุขภาพโดยรวมของแพะน้อยลงอีกด้วย