
แพะพันธุ์บอร์ (Boer): ถิ่นกำเนิด, ลักษณะ, การเลี้ยงดู พร้อมแหล่งขายและราคา

Table of Contents
แพะพันธุ์บอร์ (Boer) เป็นสายพันธุ์ของแพะเนื้อที่มีชื่อเสียงมากในวงการทำฟาร์มแพะ มีต้นกำเนิดจากทวีปแอฟริกาใต้ ลักษณะเด่นของแพะพันธุ์นี้คือ รูปร่างที่ใหญ่และมีกล้ามเนื้อมาก ซึ่งทำให้เหมาะกับการเลี้ยงเพื่อนำเนื้อไปบริโภค
ในบทความนี้เราจะพาคุณไปสำรวจถิ่นกำเนิดของแพะพันธุ์บอร์ ลักษณะทางกายภาพ, การเลี้ยงดู และนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับแหล่งขายและราคาที่น่าสนใจสำหรับเกษตรกรและผู้ที่สนใจในวงการเกษตรกรรม ผ่านการทำความเข้าใจเกี่ยวกับแพะสายพันธุ์บอร์นี้ ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความรู้และประสบการณ์ที่ดีในการเลี้ยง เพื่อผลิตเนื้อที่มีคุณภาพตามมาตรฐานที่กำหนด มุ่งสู่การพัฒนาวงการการเลี้ยงแพะอย่างยั่งยืนและมีประสิทธิภาพในระยะยาว
ถิ่นกำเนิด
แพะพันธุ์บอร์ (Boer) มีชื่อทางวิทยาศาสตร์วว่า Capra aegagrus hircus และจากข้อมูลวิกิพีเดียระบุว่า แพะมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับแกะ เนื่องจากเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่มีกีบคู่เหมือนกัน แพะสายพันธุ์นี้มีถิ่นกำเนิดในแอฟริกาใต้ ราวช่วงต้นทศวรรษ 1900 ได้รับการพัฒนาสายพันธุ์ เพื่อการผลิตเป็นเนื้อสัตว์โดยเฉพาะ
สายพันธุ์นี้เกิดจากการผสมข้ามพันธุ์ระหว่างแพะพันธุ์พื้นเมืองของแอฟริกาใต้และแพะสายพันธุ์ยุโรปที่นำเข้ามา โดยผู้ตั้งถิ่นฐานชาวดัตช์ ชื่อ “บอร์ หรือ โบเออร์ (Boer)” ซึ่งมาจากคำภาษาดัตช์ แปลว่า ชาวนา นับเป็นการสะท้อนถึงมรดกทางวัฒนธรรมของสายพันธุ์ได้เป็นอย่างดี
แพะโบเออร์มีชื่อเสียงในด้านความแข็งแกร่ง ความสามารถในการปรับตัวเข้ากับสภาพอากาศที่หลากหลาย และคุณภาพเนื้อที่เหนือกว่า ทำให้พวกมันเป็นที่นิยมในหมู่เกษตรกรและเจ้าของฟาร์มทั่วโลก
ลักษณะทางกายภาพของแพะบอร์ (Boer)
แพะบอร์เป็นแพะที่เกษตรกรนิยมเลี้ยงกันมากที่สุดในประเภทของแพะเนื้อ แต่แพะบอร์ก็ยังมีอีกแหล่งที่มาอีกหลายเชื้อชาติ อาทิ แพะบอร์อเมริกา, แพะบอร์แอฟริกา และแพะบอร์เลือด 100 ว่าแต่เพราะอะไรแพะสายพันธุ์นี้จึงเป็นที่นิยมเลี้ยง บทความนี้ Furry Farm มีรายละเอียด โดยสามารถแบ่งออกได้ ดังนี้
แพะพันธุ์บอร์มีลักษณะทางกายภาพที่สามารถสังเกตเห็นได้ ดังนี้
ขนาด
แพะบอร์เป็นแพะที่มีโครงสร้างใหญ่ซึ่งได้รับการพัฒนามาเป็นอย่างดี ตัวผู้เมื่อโตเต็มวัยจะมีน้ำหนักเฉลี่ยอยู่ที่ 90 – 135 กิโลกรัม ขณะที่เพศเมียมีน้ำหนักเฉลี่ยอยู่ที่ 65 – 100 กิโลกรัมเลยทีเดียว
สี
แพะบอร์มักมีลำตัวสีขาว มีหัวและคอสีน้ำตาลแดง อย่างไรก็ตาม พวกมันยังสามารถแสดงลวดลายสีต่าง ๆ ได้ รวมถึงสีแดงทึบหรือสีดำทึบ แต่อาจจะพบได้ไม่มากนัก
หู
แพะบอร์มักมีหูขนาดใหญ่ห้อยลงมาด้านข้างศีรษะ
โครงสร้างกล้ามเนื้อ
มีกล้ามเนื้อที่ได้รับการพัฒนาอย่างดี โดยเฉพาะบริเวณส่วนหน้าอก หลังและไหล่ ทำให้เหมาะสำหรับการผลิตเป็นเนื้อสัตว์ที่มีคุณภาพ
เขา
เขาของแพะบอร์สั้นและโค้งงอไปด้านหลัง
พฤติกรรม
- การเล็มหญ้า: แพะบอร์เป็นสัตว์กินหญ้าทั้งบนพื้นที่ราบ, ยอดไม้ และพุ่มไม้
- ความอยากรู้อยากเห็น: แพะบอร์ขึ้นชื่อในเรื่องนิสัยที่ขี้สงสัย พวกมันมักจะสำรวจสภาพแวดล้อมของตนเองและอาจโต้ตอบกับวัตถุที่อยู่รอบ ๆ ตัวด้วยความสนุกสนาน
- ความคล่องตัว: แม้ว่าแพะบอร์จะมีขนาดใหญ่ แต่มันยังคงว่องไว มันสามารถปีนและกระโดดได้ ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่พวกมันอาจแสดงออกมา เมื่อสำรวจสภาพแวดล้อมหรือหลบเลี่ยงผู้ล่า
- การเปล่งเสียง: แพะพันธุ์บอร์สื่อสารผ่านการเปล่งเสียงต่าง ๆ รวมถึงการร้องครวญคราง ซึ่งอาจบ่งบอกถึงความไม่สบายตัว ความหิว หรือความปรารถนาที่จะมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคม
- การแสดงอาณาเขต: แม้ว่าแพะบอร์โดยทั่วไปจะเชื่อง แต่พวกมันก็อาจมีพฤติกรรมในอาณาเขต โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูผสมพันธุ์ ซึ่งอาจทำให้แพะมีนิสัยที่กล้าแสดงออกมากขึ้น
แพะบอร์อเมริกา แอฟริกา และบอร์เลือด 100
แพะบอร์มีถิ่นกำเนิดมาจากแอฟริกาใต้ ดังนั้นแพะบอร์เลือด 100 จึงเป็นการสืบเชื้อสายมาจากแอฟริกานั่นเอง แพะบอร์เหล่านี้จะมีลักษณะส่วนใหญ่ที่คล้ายกัน แต่แพะบอร์อเมริกาจะมีความต่างในด้านโครงสร้างและมวลกล้ามเนื้อที่ใหญ่กว่าเล็กน้อย ขนของแพะบอร์อเมริกาและแอฟริกามักมีสีขาว มีหัวสีแดงหรือสีน้ำตาล ขณะที่แพะบอร์ 100 มักจะมีสีขาวล้วน
ความสามารถในการปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อม แพะบอร์แอฟริกาจะมีความสามารถปรับตัวและทนต่อโรคได้ดีกว่าบอร์อเมริกา ซึ่งบอร์อเมริกาจะมีความสามารถในการปรับตัวที่แตกต่างไปในแต่ภูมิภาคของประเทศ
แพะบอร์เลือด 100 ที่มีอายุ 3 – 4 เดือน โดยประมาณ และหย่านมแล้ว สามารถขายได้ในราคา 25,000 – 30,000 บาทต่อตัว ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของแต่ละฟาร์มด้วย
แม้ว่าแพะบอร์แอฟริกาและอเมริกันมีความคล้ายคลึงกันหลายประการในแง่ของรูปลักษณ์และลักษณะการผลิต แต่ก็อาจมีความแตกต่างเล็กน้อยที่ได้รับอิทธิพลจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น สภาพแวดล้อม วัตถุประสงค์ในการผสมพันธุ์ และวิธีปฏิบัติในการจัดการที่เฉพาะเจาะจงสำหรับแต่ละภูมิภาค
การเลี้ยงแพะพันธุ์บอร์
ก่อนการตัดสินใจเลี้ยงแพะบอร์ คุณต้องมีการวางแผนและเตรียมพื้นที่ให้ดี โดยต้องมั่นใจว่ามีพื้นที่เพียงพอและสามารถจัดการได้ดี เพื่อให้มั่นใจว่าคุณจะได้แพะบอร์ที่มีสุขภาพดีและได้เนื้อที่มีคุณภาพเหมาะกับการบริโภค เหล่านี้คือสิ่งที่คุณควรรู้
การศึกษาข้อมูล
การหาข้อมูลเกี่ยวกับแพะบอร์ก่อนการลงมือทำเป็นสิ่งสำคัญ เรียนรู้เกี่ยวกับความต้องการพื้นฐาน พฤติกรรม ปัญหาสุขภาพทั่วไป และแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดในการเลี้ยงดูพวกมัน อาจเป็นการอ่านหนังสือ หรือค้นหาคำว่าแพะบวกพื้นที่ของคุณ เพื่อดูว่ามีใครที่สามารถจะปรึกษาหรือพูดคุยได้บ้าง
ที่อยู่อาศัยที่ปลอดภัย
แพะพันธุ์บอร์ต้องการที่พักที่ปลอดภัยจากสภาพอากาศที่รุนแรง เช่น ฝน ลม และอุณหภูมิที่สูงมาก โดยเฉพาะหากช่วงกลางคืนมีอุณหภูมิเกิน 30 องศาเซลเซียส เป็นสิ่งที่ผู้เลี้ยงต้องระมัดระวัง การสร้างที่พักที่แข็งแรงมีการระบายอากาศและพื้นที่เพียงพอประมาณ 1.5 – 2 ตารางเมตรต่อตัว จะทำให้แพะไม่เครียด และเพื่อให้แพะสามารถเคลื่อนที่ได้อย่างสะดวกสบาย ตรวจสอบให้แน่ใจว่าพื้นที่มีการระบายน้ำได้ดีและสะอาดเพื่อป้องกันปัญหาด้านสุขภาพที่อาจตามมา
การทำรั้ว
การลงทุนทำรั้วที่ปลอดภัย เพื่อเก็บแพะบอร์ของคุณไว้ในพื้นที่ที่กำหนดและปกป้องพวกมันจากผู้ล่า แพะบอร์ขึ้นชื่อในเรื่องความอยากรู้อยากเห็น ฉลาด และความสามารถในการหลบหนี ดังนั้น รั้วที่แข็งแรงจึงเป็นสิ่งจำเป็น โดยอาจใช้รั้วไฟฟ้าที่มีความสูงที่ 1.2 – 1.5 เมตร
โภชนาการและการให้อาหาร
เลือกให้อาหารที่สมดุลสำหรับแพะบอร์ของคุณ ซึ่งประกอบด้วยหญ้าแห้ง, ทุ่งหญ้า, หยวกกล้วย และแร่ธาตุเสริมคุณภาพดี ตรวจสอบให้แน่ใจว่าสามารถเข้าถึงน้ำที่สะอาดและสดใหม่ได้ตลอดเวลา ปรึกษากับสัตวแพทย์หรือเกษตรกรผู้เลี้ยงแพะที่มีประสบการณ์ เพื่อกำหนดวิธีการให้อาหารที่เหมาะสมสำหรับแพะของคุณ โดยพิจารณาจากอายุ น้ำหนัก และสถานะสุขภาพของพวกมัน
การดูแลสุขภาพ
ปรึกษาสัตวแพทย์ที่มีประสบการณ์เกี่ยวกับแพะ กำหนดเวลาการตรวจสุขภาพและฉีดวัคซีนเป็นประจำ เพื่อป้องกันโรคพาราทูเบอร์คูโลซีส (Paratuberculosis) หรือ Johne’s disease เป็นโรคติดต่อเรื้อรังทางลำไส้และโรคปอดที่พบบ่อย อันเกิดจากการที่แพะได้รับความเครียดและอากาศในฟาร์มถ่ายเทได้ไม่ดี เรียนรู้ที่จะรับรู้สัญญาณของการเจ็บป่วยหรือความทุกข์ในแพะของคุณและแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ทันที
การผสมพันธุ์และการสืบพันธุ์
หากคุณวางแผนที่จะผสมพันธุ์แพะพันธุ์บอร์ ให้ทำความคุ้นเคยกับวงจรการผสมพันธุ์ โดยมีระยะเวลาเฉลี่ยในการตั้งครรภ์เฉลี่ยอยู่ที่ 148.2 วัน +/-3.7 วัน แพะเป็นสัตว์ที่มีสองเพศ สามารถผสมพันธุ์กันได้ตลอดทั้งปี เมื่อมันอายุได้ 5 เดือนก็สามารถผสมพันธุ์ได้แล้ว
โดยทั่วไปมันจะออกลูก 3 รอบ ทุก ๆ 2 ปี ตัวเมียเข้าสู่วัยแรกรุ่นพร้อมเจิรญพันธุ์เมื่ออายุ 10 – 12 เดือน ตัวเมียจะอุ้มท้อง 5 เดือน จากนั้นจะเลี้ยงลูกอีก 3 เดือน โดยสัดส่วนการได้แพะตัวผู้และแพะตัวเมียที่ 1:20 พร้อมกับพิจารณาซื้อแม่พันธุ์ที่มีคุณภาพจากพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ที่น่าชื่อถือ เพื่อให้แน่ใจว่าลูกมีสุขภาพแข็งแรงและมีลักษณะตามที่ต้องการ
การจัดการและพฤติกรรม
โดยทั่วไปแล้วแพะบอร์เป็นสัตว์ที่เชื่องและเป็นมิตร แต่อาจกลายเป็นสัตว์ก้าวร้าวได้หากถูกยั่วยุหรือเครียด จัดการพวกมันอย่างอ่อนโยนและระมัดระวัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีปฏิสัมพันธ์กับเด็ก ๆ ใช้เวลาสร้างความผูกพันกับแพะ เพื่อสร้างความไว้วางใจและสร้างความสัมพันธ์เชิงบวก
เขาของแพะบอร์โดยทั่วไปแล้วผู้เลี้ยงในประเทศไทยจะปล่อยเขาของมันไว้อย่างนั้น เพราะเขาของมันจะเป็นตัวช่วยระบายความร้อนจากตัวได้
ลักษณะของแพะที่มีสุขภาพดี
สิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งในการเลี้ยงแพะ ก็คือการสังเกตสุขภาพของแพะ ซึ่งเหล่านี้คือ สัญญาณที่บอกว่าแพะบอร์ของคุณมีสุขภาพดีและแข็งแรง
- ท่าทาง: ขณะที่ยืน แพะไม่ควรดึงขาหลังไปข้างหน้าหรือข้างหลังมากเกินไป หัวแพะควรตั้งตรงเหนือลำตัว ที่สำคัญควรมีลักษณะที่ดึงดูดสายตาและดูตื่นตัว
- ขน: จมูกเป็นมันเงา เรียบเนียน และสะอาด
- ตา: มีดวงตาสีน้ำตาลที่สดใส
- อุณหภูมิ: แพะบอร์ที่มีสุขภาพดีควรมีอุณหภูมิที่ 38.6 – 40.6 องศาเซลเซียส
- ศีรษะ: ดูมีความแข็งแรงและโดดเด่น
- ขา: แข็งแรง จัดวางอย่างดี และไม่หนาหรืออ้วนจนเกินไป
- ตรวจวัดชีพจร: ปกติแล้วจะอยู่ที่ 70 – 90 ครั้งต่อนาที
- นับอัตราการหายใจ: ถ้าเป็นแพะที่โตเต็มวัย อัตราการหายใจจะอยู่ที่ 10 – 30 ครั้งต่อนาที แพะเด็กจะอยู่ที่ 20 – 40 ครั้งต่อนาที
- ตระหนักถึงอายุขัย: แพะบอร์จะมีอายุขัยเฉลี่ยที่ 10 -12 ปี
หากแพะบอร์ของคุณมีอุณหภูมิร่างกายสูงหรือต่ำกว่าปกติ อาจเป็นสัญญาณของหวัด ซึ่งเป็นโรคที่อันตรายถึงชีวิต หากขนของแพะไม่เงางามและหลุดร่วงง่ายเมื่อดึงด้วยนิ้วมือ หากคุณเป็นมือใหม่และกำลังจะซื้อแพะบอร์ เราขอแนะนำให้ตรวจสอบคู่มือทั่วไปของเรา “วิธีบอกว่าแพะของคุณป่วยหรือไม่”
แหล่งขายแพะพันธุ์บอร์ และราคา

ตัวอย่างที่สวยงามของแพะบอร์แอฟริกา เครดิตภาพจาก Stockholm-สต็อกโฮล์ม
ด้วยความที่แพะบอร์เป็นแพะเนื้อที่ทั่วโลกนิยมเลี้ยงรวมถึงประเทศไทย ซึ่งราคาขายจะมีความแตกต่างกันไปโดยหากเป็นแพะบอร์ตัวผู้จะอยู่ที่ 12,000 บาท ตัวเมียจะอยู่ที่ 15,000 บาท แต่หากเป็นลูกแพะบอร์เลือด 100 จะอยู่ที่ 30,000 บาท โดยประมาณ โดยมีฟาร์มที่ขายแพะบอร์มีดังนี้
แขมณรงค์ ฟาร์มแพะ ชัยนาท
- Facebook:แขมณรงค์ฟาร์มแพะ จ.ชัยนาท
- โทร.: +66887727460
- ราคา: ไม่ระบุ
บ้านไอซ์ฟาร์มแพะ
- Facebook:บ้านไอซ์ฟาร์มแพะ
- โทร.: +66614188300
- ราคา: ไม่ระบุ
Stockholm-สต็อกโฮล์ม
- Facebook:Stockholm-สต็อกโฮล์ม
- โทร.: +66885619915
- ราคา: ไม่ระบุ
CPF Feed
- Facebook:CPF Feed
- โทร.: +66826804500
- สายพันธุ์ที่จำหน่าย: แพะบอร์เลือด 100%
- ราคา: ไม่ระบุ
สำหรับผู้ที่มีความสนใจที่จะในการทำฟาร์มแพะ สามารถโทรสอบถามข้อมูลเบื้องต้นก่อนได้
บทสรุป
แพะพันธุ์บอร์เป็นแพะเนื้อที่มีถิ่นกำเนิดมาจากแอฟริกาใต้ มีลักษณะโครงสร้างของขนาดที่ใหญ่ มีความสามารถในการปรับตัวในสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย เจริญเติบโตได้เร็ว และให้เนื้อที่มีคุณภาพเหมาะกับการบริโภค
ลักษณะนิสัยของแพะบอร์จะมีความอยากรู้อยากเห็น และฉลาด ไม่อยู่ติดฝูงจึงทำให้การเลี้ยงแพะบอร์จำเป็นที่จะต้องคำนึงในหลาย ๆ สิ่ง อาทิ ที่พักอาศัยและรั้วที่ควรมีความสูงตั้งแต่ 1.2 – 1.5 เมตร เพื่อป้องกันการกระโดดหนีของแพะสายพันธุ์นี้
ในประเทศไทยมีฟาร์มแพะบอร์ที่ขายทั้งแพะบอร์ 100% และแพะบอร์ลูกผสม ในราคาที่หลากหลาย ผู้ที่สนใจสามารถโทรสอบถามก่อนได้ตามข้อมูลที่ให้ไว้ข้างต้น
การได้ทราบถึงที่มาที่ไปถิ่นกำเนิด ตลอดจนลักษณะทางกายภาพ, นิสัย จะทำให้ผู้เลี้ยงสามารถวางแผนการเลี้ยงและการจัดการกับสถานที่หรือโรงเรือนได้อย่างถูกต้องและถูกสุขลักษณะ ส่งผลให้แพะมีความสุข สุขภาพดี เกษตรกรก็จะได้ผลผลิตที่ดีตามที่ต้องการได้