แพะพันธุ์บอร์ (Boer): ถิ่นกำเนิด, ลักษณะ, การเลี้ยงดู พร้อมแหล่งขายและราคา

Christopher Baude
Written by Baude Christopher การตลาด
Updated: 2024-12-01
American boer goat scrubbing against a wooden pole

Table of Contents

แพะพันธุ์บอร์ (Boer) เป็นสายพันธุ์ของแพะเนื้อที่มีชื่อเสียงมากในวงการทำฟาร์มแพะ มีต้นกำเนิดจากทวีปแอฟริกาใต้ ลักษณะเด่นของแพะพันธุ์นี้คือ รูปร่างที่ใหญ่และมีกล้ามเนื้อมาก ซึ่งทำให้เหมาะกับการเลี้ยงเพื่อนำเนื้อไปบริโภค

ในบทความนี้เราจะพาคุณไปสำรวจถิ่นกำเนิดของแพะพันธุ์บอร์ ลักษณะทางกายภาพ, การเลี้ยงดู และนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับแหล่งขายและราคาที่น่าสนใจสำหรับเกษตรกรและผู้ที่สนใจในวงการเกษตรกรรม ผ่านการทำความเข้าใจเกี่ยวกับแพะสายพันธุ์บอร์นี้ ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความรู้และประสบการณ์ที่ดีในการเลี้ยง เพื่อผลิตเนื้อที่มีคุณภาพตามมาตรฐานที่กำหนด มุ่งสู่การพัฒนาวงการการเลี้ยงแพะอย่างยั่งยืนและมีประสิทธิภาพในระยะยาว

ถิ่นกำเนิด

แพะพันธุ์บอร์ (Boer) มีชื่อทางวิทยาศาสตร์วว่า Capra aegagrus hircus และจากข้อมูลวิกิพีเดียระบุว่า แพะมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับแกะ เนื่องจากเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่มีกีบคู่เหมือนกัน แพะสายพันธุ์นี้มีถิ่นกำเนิดในแอฟริกาใต้ ราวช่วงต้นทศวรรษ 1900 ได้รับการพัฒนาสายพันธุ์ เพื่อการผลิตเป็นเนื้อสัตว์โดยเฉพาะ

สายพันธุ์นี้เกิดจากการผสมข้ามพันธุ์ระหว่างแพะพันธุ์พื้นเมืองของแอฟริกาใต้และแพะสายพันธุ์ยุโรปที่นำเข้ามา โดยผู้ตั้งถิ่นฐานชาวดัตช์ ชื่อ “บอร์ หรือ โบเออร์ (Boer)” ซึ่งมาจากคำภาษาดัตช์ แปลว่า ชาวนา นับเป็นการสะท้อนถึงมรดกทางวัฒนธรรมของสายพันธุ์ได้เป็นอย่างดี

แพะโบเออร์มีชื่อเสียงในด้านความแข็งแกร่ง ความสามารถในการปรับตัวเข้ากับสภาพอากาศที่หลากหลาย และคุณภาพเนื้อที่เหนือกว่า ทำให้พวกมันเป็นที่นิยมในหมู่เกษตรกรและเจ้าของฟาร์มทั่วโลก

ลักษณะทางกายภาพของแพะบอร์ (Boer)

แพะบอร์เป็นแพะที่เกษตรกรนิยมเลี้ยงกันมากที่สุดในประเภทของแพะเนื้อ แต่แพะบอร์ก็ยังมีอีกแหล่งที่มาอีกหลายเชื้อชาติ อาทิ แพะบอร์อเมริกา, แพะบอร์แอฟริกา และแพะบอร์เลือด 100 ว่าแต่เพราะอะไรแพะสายพันธุ์นี้จึงเป็นที่นิยมเลี้ยง บทความนี้ Furry Farm มีรายละเอียด โดยสามารถแบ่งออกได้ ดังนี้

แพะพันธุ์บอร์มีลักษณะทางกายภาพที่สามารถสังเกตเห็นได้ ดังนี้

ขนาด

แพะบอร์เป็นแพะที่มีโครงสร้างใหญ่ซึ่งได้รับการพัฒนามาเป็นอย่างดี ตัวผู้เมื่อโตเต็มวัยจะมีน้ำหนักเฉลี่ยอยู่ที่ 90 – 135 กิโลกรัม ขณะที่เพศเมียมีน้ำหนักเฉลี่ยอยู่ที่ 65 – 100 กิโลกรัมเลยทีเดียว

สี

แพะบอร์มักมีลำตัวสีขาว มีหัวและคอสีน้ำตาลแดง อย่างไรก็ตาม พวกมันยังสามารถแสดงลวดลายสีต่าง ๆ ได้ รวมถึงสีแดงทึบหรือสีดำทึบ แต่อาจจะพบได้ไม่มากนัก

หู

แพะบอร์มักมีหูขนาดใหญ่ห้อยลงมาด้านข้างศีรษะ

โครงสร้างกล้ามเนื้อ

มีกล้ามเนื้อที่ได้รับการพัฒนาอย่างดี โดยเฉพาะบริเวณส่วนหน้าอก หลังและไหล่ ทำให้เหมาะสำหรับการผลิตเป็นเนื้อสัตว์ที่มีคุณภาพ

เขา

เขาของแพะบอร์สั้นและโค้งงอไปด้านหลัง

พฤติกรรม

  • การเล็มหญ้า: แพะบอร์เป็นสัตว์กินหญ้าทั้งบนพื้นที่ราบ, ยอดไม้ และพุ่มไม้
  • ความอยากรู้อยากเห็น: แพะบอร์ขึ้นชื่อในเรื่องนิสัยที่ขี้สงสัย พวกมันมักจะสำรวจสภาพแวดล้อมของตนเองและอาจโต้ตอบกับวัตถุที่อยู่รอบ ๆ ตัวด้วยความสนุกสนาน
  • ความคล่องตัว: แม้ว่าแพะบอร์จะมีขนาดใหญ่ แต่มันยังคงว่องไว มันสามารถปีนและกระโดดได้ ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่พวกมันอาจแสดงออกมา เมื่อสำรวจสภาพแวดล้อมหรือหลบเลี่ยงผู้ล่า
  • การเปล่งเสียง: แพะพันธุ์บอร์สื่อสารผ่านการเปล่งเสียงต่าง ๆ รวมถึงการร้องครวญคราง ซึ่งอาจบ่งบอกถึงความไม่สบายตัว ความหิว หรือความปรารถนาที่จะมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคม
  • การแสดงอาณาเขต: แม้ว่าแพะบอร์โดยทั่วไปจะเชื่อง แต่พวกมันก็อาจมีพฤติกรรมในอาณาเขต โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูผสมพันธุ์ ซึ่งอาจทำให้แพะมีนิสัยที่กล้าแสดงออกมากขึ้น

แพะบอร์อเมริกา แอฟริกา และบอร์เลือด 100

แพะบอร์มีถิ่นกำเนิดมาจากแอฟริกาใต้ ดังนั้นแพะบอร์เลือด 100 จึงเป็นการสืบเชื้อสายมาจากแอฟริกานั่นเอง แพะบอร์เหล่านี้จะมีลักษณะส่วนใหญ่ที่คล้ายกัน แต่แพะบอร์อเมริกาจะมีความต่างในด้านโครงสร้างและมวลกล้ามเนื้อที่ใหญ่กว่าเล็กน้อย ขนของแพะบอร์อเมริกาและแอฟริกามักมีสีขาว มีหัวสีแดงหรือสีน้ำตาล ขณะที่แพะบอร์ 100 มักจะมีสีขาวล้วน

ความสามารถในการปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อม แพะบอร์แอฟริกาจะมีความสามารถปรับตัวและทนต่อโรคได้ดีกว่าบอร์อเมริกา ซึ่งบอร์อเมริกาจะมีความสามารถในการปรับตัวที่แตกต่างไปในแต่ภูมิภาคของประเทศ

แพะบอร์เลือด 100 ที่มีอายุ 3 – 4 เดือน โดยประมาณ และหย่านมแล้ว สามารถขายได้ในราคา 25,000 – 30,000 บาทต่อตัว ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของแต่ละฟาร์มด้วย

แม้ว่าแพะบอร์แอฟริกาและอเมริกันมีความคล้ายคลึงกันหลายประการในแง่ของรูปลักษณ์และลักษณะการผลิต แต่ก็อาจมีความแตกต่างเล็กน้อยที่ได้รับอิทธิพลจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น สภาพแวดล้อม วัตถุประสงค์ในการผสมพันธุ์ และวิธีปฏิบัติในการจัดการที่เฉพาะเจาะจงสำหรับแต่ละภูมิภาค

การเลี้ยงแพะพันธุ์บอร์

ก่อนการตัดสินใจเลี้ยงแพะบอร์ คุณต้องมีการวางแผนและเตรียมพื้นที่ให้ดี โดยต้องมั่นใจว่ามีพื้นที่เพียงพอและสามารถจัดการได้ดี เพื่อให้มั่นใจว่าคุณจะได้แพะบอร์ที่มีสุขภาพดีและได้เนื้อที่มีคุณภาพเหมาะกับการบริโภค เหล่านี้คือสิ่งที่คุณควรรู้

การศึกษาข้อมูล

การหาข้อมูลเกี่ยวกับแพะบอร์ก่อนการลงมือทำเป็นสิ่งสำคัญ เรียนรู้เกี่ยวกับความต้องการพื้นฐาน พฤติกรรม ปัญหาสุขภาพทั่วไป และแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดในการเลี้ยงดูพวกมัน อาจเป็นการอ่านหนังสือ หรือค้นหาคำว่าแพะบวกพื้นที่ของคุณ เพื่อดูว่ามีใครที่สามารถจะปรึกษาหรือพูดคุยได้บ้าง 

ที่อยู่อาศัยที่ปลอดภัย

แพะพันธุ์บอร์ต้องการที่พักที่ปลอดภัยจากสภาพอากาศที่รุนแรง เช่น ฝน ลม และอุณหภูมิที่สูงมาก โดยเฉพาะหากช่วงกลางคืนมีอุณหภูมิเกิน 30 องศาเซลเซียส เป็นสิ่งที่ผู้เลี้ยงต้องระมัดระวัง การสร้างที่พักที่แข็งแรงมีการระบายอากาศและพื้นที่เพียงพอประมาณ 1.5 – 2 ตารางเมตรต่อตัว จะทำให้แพะไม่เครียด และเพื่อให้แพะสามารถเคลื่อนที่ได้อย่างสะดวกสบาย ตรวจสอบให้แน่ใจว่าพื้นที่มีการระบายน้ำได้ดีและสะอาดเพื่อป้องกันปัญหาด้านสุขภาพที่อาจตามมา

การทำรั้ว

การลงทุนทำรั้วที่ปลอดภัย เพื่อเก็บแพะบอร์ของคุณไว้ในพื้นที่ที่กำหนดและปกป้องพวกมันจากผู้ล่า แพะบอร์ขึ้นชื่อในเรื่องความอยากรู้อยากเห็น ฉลาด และความสามารถในการหลบหนี ดังนั้น รั้วที่แข็งแรงจึงเป็นสิ่งจำเป็น โดยอาจใช้รั้วไฟฟ้าที่มีความสูงที่ 1.2 – 1.5 เมตร

โภชนาการและการให้อาหาร

เลือกให้อาหารที่สมดุลสำหรับแพะบอร์ของคุณ ซึ่งประกอบด้วยหญ้าแห้ง, ทุ่งหญ้า, หยวกกล้วย และแร่ธาตุเสริมคุณภาพดี ตรวจสอบให้แน่ใจว่าสามารถเข้าถึงน้ำที่สะอาดและสดใหม่ได้ตลอดเวลา ปรึกษากับสัตวแพทย์หรือเกษตรกรผู้เลี้ยงแพะที่มีประสบการณ์ เพื่อกำหนดวิธีการให้อาหารที่เหมาะสมสำหรับแพะของคุณ โดยพิจารณาจากอายุ น้ำหนัก และสถานะสุขภาพของพวกมัน

การดูแลสุขภาพ

ปรึกษาสัตวแพทย์ที่มีประสบการณ์เกี่ยวกับแพะ กำหนดเวลาการตรวจสุขภาพและฉีดวัคซีนเป็นประจำ เพื่อป้องกันโรคพาราทูเบอร์คูโลซีส (Paratuberculosis) หรือ Johne’s disease  เป็นโรคติดต่อเรื้อรังทางลำไส้และโรคปอดที่พบบ่อย อันเกิดจากการที่แพะได้รับความเครียดและอากาศในฟาร์มถ่ายเทได้ไม่ดี เรียนรู้ที่จะรับรู้สัญญาณของการเจ็บป่วยหรือความทุกข์ในแพะของคุณและแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ทันที

การผสมพันธุ์และการสืบพันธุ์

หากคุณวางแผนที่จะผสมพันธุ์แพะพันธุ์บอร์ ให้ทำความคุ้นเคยกับวงจรการผสมพันธุ์ โดยมีระยะเวลาเฉลี่ยในการตั้งครรภ์เฉลี่ยอยู่ที่ 148.2 วัน +/-3.7 วัน แพะเป็นสัตว์ที่มีสองเพศ สามารถผสมพันธุ์กันได้ตลอดทั้งปี เมื่อมันอายุได้ 5 เดือนก็สามารถผสมพันธุ์ได้แล้ว

โดยทั่วไปมันจะออกลูก 3 รอบ ทุก ๆ 2 ปี ตัวเมียเข้าสู่วัยแรกรุ่นพร้อมเจิรญพันธุ์เมื่ออายุ 10 – 12 เดือน ตัวเมียจะอุ้มท้อง 5 เดือน จากนั้นจะเลี้ยงลูกอีก 3 เดือน โดยสัดส่วนการได้แพะตัวผู้และแพะตัวเมียที่ 1:20 พร้อมกับพิจารณาซื้อแม่พันธุ์ที่มีคุณภาพจากพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ที่น่าชื่อถือ เพื่อให้แน่ใจว่าลูกมีสุขภาพแข็งแรงและมีลักษณะตามที่ต้องการ

การจัดการและพฤติกรรม

โดยทั่วไปแล้วแพะบอร์เป็นสัตว์ที่เชื่องและเป็นมิตร แต่อาจกลายเป็นสัตว์ก้าวร้าวได้หากถูกยั่วยุหรือเครียด จัดการพวกมันอย่างอ่อนโยนและระมัดระวัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีปฏิสัมพันธ์กับเด็ก ๆ ใช้เวลาสร้างความผูกพันกับแพะ เพื่อสร้างความไว้วางใจและสร้างความสัมพันธ์เชิงบวก

เขาของแพะบอร์โดยทั่วไปแล้วผู้เลี้ยงในประเทศไทยจะปล่อยเขาของมันไว้อย่างนั้น เพราะเขาของมันจะเป็นตัวช่วยระบายความร้อนจากตัวได้

ลักษณะของแพะที่มีสุขภาพดี

สิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งในการเลี้ยงแพะ ก็คือการสังเกตสุขภาพของแพะ ซึ่งเหล่านี้คือ สัญญาณที่บอกว่าแพะบอร์ของคุณมีสุขภาพดีและแข็งแรง

  • ท่าทาง: ขณะที่ยืน แพะไม่ควรดึงขาหลังไปข้างหน้าหรือข้างหลังมากเกินไป หัวแพะควรตั้งตรงเหนือลำตัว ที่สำคัญควรมีลักษณะที่ดึงดูดสายตาและดูตื่นตัว
  • ขน: จมูกเป็นมันเงา เรียบเนียน และสะอาด
  • ตา: มีดวงตาสีน้ำตาลที่สดใส
  • อุณหภูมิ: แพะบอร์ที่มีสุขภาพดีควรมีอุณหภูมิที่ 38.6 – 40.6 องศาเซลเซียส
  • ศีรษะ: ดูมีความแข็งแรงและโดดเด่น
  • ขา: แข็งแรง จัดวางอย่างดี และไม่หนาหรืออ้วนจนเกินไป
  • ตรวจวัดชีพจร: ปกติแล้วจะอยู่ที่ 70 – 90 ครั้งต่อนาที
  • นับอัตราการหายใจ: ถ้าเป็นแพะที่โตเต็มวัย อัตราการหายใจจะอยู่ที่ 10 – 30 ครั้งต่อนาที แพะเด็กจะอยู่ที่ 20 – 40 ครั้งต่อนาที
  • ตระหนักถึงอายุขัย: แพะบอร์จะมีอายุขัยเฉลี่ยที่ 10 -12 ปี

หากแพะบอร์ของคุณมีอุณหภูมิร่างกายสูงหรือต่ำกว่าปกติ อาจเป็นสัญญาณของหวัด ซึ่งเป็นโรคที่อันตรายถึงชีวิต หากขนของแพะไม่เงางามและหลุดร่วงง่ายเมื่อดึงด้วยนิ้วมือ หากคุณเป็นมือใหม่และกำลังจะซื้อแพะบอร์ เราขอแนะนำให้ตรวจสอบคู่มือทั่วไปของเรา “วิธีบอกว่าแพะของคุณป่วยหรือไม่”

แหล่งขายแพะพันธุ์บอร์ และราคา

ตัวอย่างที่สวยงามของแพะบอร์แอฟริกา เครดิตภาพจาก Stockholm-สต็อกโฮล์ม

ด้วยความที่แพะบอร์เป็นแพะเนื้อที่ทั่วโลกนิยมเลี้ยงรวมถึงประเทศไทย ซึ่งราคาขายจะมีความแตกต่างกันไปโดยหากเป็นแพะบอร์ตัวผู้จะอยู่ที่ 12,000 บาท ตัวเมียจะอยู่ที่ 15,000 บาท แต่หากเป็นลูกแพะบอร์เลือด 100 จะอยู่ที่ 30,000 บาท โดยประมาณ โดยมีฟาร์มที่ขายแพะบอร์มีดังนี้

แขมณรงค์ ฟาร์มแพะ ชัยนาท

บ้านไอซ์ฟาร์มแพะ

Stockholm-สต็อกโฮล์ม

CPF Feed

  • Facebook:CPF Feed
  • โทร.: +66826804500
  • สายพันธุ์ที่จำหน่าย: แพะบอร์เลือด 100%
  • ราคา: ไม่ระบุ

สำหรับผู้ที่มีความสนใจที่จะในการทำฟาร์มแพะ สามารถโทรสอบถามข้อมูลเบื้องต้นก่อนได้

บทสรุป

แพะพันธุ์บอร์เป็นแพะเนื้อที่มีถิ่นกำเนิดมาจากแอฟริกาใต้ มีลักษณะโครงสร้างของขนาดที่ใหญ่ มีความสามารถในการปรับตัวในสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย เจริญเติบโตได้เร็ว และให้เนื้อที่มีคุณภาพเหมาะกับการบริโภค

ลักษณะนิสัยของแพะบอร์จะมีความอยากรู้อยากเห็น และฉลาด ไม่อยู่ติดฝูงจึงทำให้การเลี้ยงแพะบอร์จำเป็นที่จะต้องคำนึงในหลาย ๆ สิ่ง อาทิ ที่พักอาศัยและรั้วที่ควรมีความสูงตั้งแต่ 1.2 – 1.5 เมตร เพื่อป้องกันการกระโดดหนีของแพะสายพันธุ์นี้

ในประเทศไทยมีฟาร์มแพะบอร์ที่ขายทั้งแพะบอร์ 100% และแพะบอร์ลูกผสม ในราคาที่หลากหลาย ผู้ที่สนใจสามารถโทรสอบถามก่อนได้ตามข้อมูลที่ให้ไว้ข้างต้น

การได้ทราบถึงที่มาที่ไปถิ่นกำเนิด ตลอดจนลักษณะทางกายภาพ, นิสัย จะทำให้ผู้เลี้ยงสามารถวางแผนการเลี้ยงและการจัดการกับสถานที่หรือโรงเรือนได้อย่างถูกต้องและถูกสุขลักษณะ ส่งผลให้แพะมีความสุข สุขภาพดี เกษตรกรก็จะได้ผลผลิตที่ดีตามที่ต้องการได้

Leave a comment

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *